ค่า pH เป็นค่าที่ใช้วัดความเป็นกรด-ด่าง โดยเริ่มตั้งแต่ 0-14
ซึ่งค่ากลางคือ 7 แปลว่าสารนั้นมีสภาวะเป็นกลาง (Neutral) โดยปกติจะเป็นค่าของน้ำบริสุทธิ์
ถ้าน้อยกว่า 7 ก็เป็นกรด (Acid) มากกว่า 7 ก็เป็นด่าง (Alkaline)
ถึงแม้ค่าจะดูน้อย แต่ทว่าแต่ละตัวนั้นมีความต่างกันถึง 10 เท่าเชียวนะ เช่น สาร A มีค่า pH 6 แปลว่ามีความเป็นกรดมากกว่าน้ำที่มีค่า pH 7 ถึง 10 เท่า
ถ้าสาร B มีค่า pH 5 ก็แปลว่ามีความเป็นกรดมากกว่าน้ำถึง 100 เท่าเลยเชียวล่ะ
เพราะงั้นถึงแม้ค่า pH จะต่างกันแค่นิดหน่อย แต่ก็อาจจะสร้างผลกระทบกับความสมดุลของผิวเราได้เยอะทีเดียว
—
ปกติค่า pH เฉลี่ยของผิวหนังคนเราอยู่ที่ 4.7 ซึ่งเป็นกรดนิดหน่อย ดังนั้นเวลาเราใช้สกินแคร์ก็จะต้องระวังอย่าไปรบกวนค่า pH ตามธรรมชาติของผิวมากนัก
การใช้สารที่เป็นด่างเกินไป เช่น เบคกิ้งโซดา ก็จะทำให้ผิวแห้ง ลอกได้ ในทางตรงกันข้ามถ้าใช้สารที่เป็นกรดเกินไปเช่น น้ำมะนาว ซึ่งมีค่า pH ประมาณ 2 ทาลงบนผิว ก็จะทำให้มีอาการแสบ ร้อน คันยุบยิบได้ด้วย
สรุปแล้ว การจะรักษาสมดุลของผิว จึงต้องใส่ใจในการเลือกสกินแคร์ที่มีค่า pH ที่เหมาะสม เพื่อให้สารนั้นๆ ออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วย
เซรั่มวิตามินซีเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เพราะประสิทธิภาพของแต่ละตัวขึ้นอยู่กับค่า pH ของสูตร ซึ่งค่าที่แนะนำและเห็นผลดีที่สุด จะอยู่ที่ 2-2.5 และเพราะความเป็นกรดนี่เอง ทำให้คนที่มีผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย มักจะรู้สึกคันยุบยิบเวลาใช้ เรียกได้ว่าวิตามินซีแบบนี้เหมาะกับผิวบางประเภทเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บของ Dr.Baumann เจ้าเก่าค่ะ